Ventry เริ่มจากการการก่อตั้งของศาสตราจารย์นายแพทย์เจริญ โชติกวณิชย์ (Charoen Chotigavanich) ศัลยแพทย์ด้านกระดูกและข้อและอดีตประธาน Asia Pacific Orthopedic Association (AOPA) ตั้งแต่ปี 2555-2557 อาจารย์เจริญได้ทำการรักษาคนไข้ที่มีปัญหาด้านกระดูกและหลังมามากกว่า 40 ปี และในปี 2525 ท่านได้จดทะเบียนสิทธิบัตรรูปแบบหมอนรองคอที่ในประเทศไทย หลังจากที่ได้ทำการทดสอบกับวัสดุต่างๆมากมายที่มาผลิตเป็นหมอน อาจารย์เจริญได้ค้นพบว่าฟองน้ำยางพาราเป็นวัสดุที่เหมาะสมที่สุด เพราะยางพารามีส่วนช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่น เหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ มีความยืดหยุ่นดีและมีความทนทานมีอายุการใช้งานนาน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ Ventry ผู้ผลิตและจำน่ายหมอนและที่นอนยางพารา 100% มากว่า 30 ปี และเรามาพร้อมกับประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อผู้ที่มีปัญหาด้านการนอนโดยเฉพาะ
จากปรัชญาของเราซึ่งคือ “Good sleep… Good Health” เรามีความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาสินค้าให้มีความสมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อให้ลูกค้าของเราหลับสบาย เราได้ลงทุนด้านนวัตกรรมและประยุกต์เทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วัตถุดิบ การคัดสรร น้ำยาง ผ้าหุ้ม การตัดเย็บ ไปจนถึงการบรรจุภัณฑ์ และด้วยทีมงานมืออาชีพเราจะไม่หยุดยั้งการพัฒนาของเราเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า เช่นเทคโนโลยี Silpro ทำให้สินค้าของเราเหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ (hyper-allergenic) หรือการออกแบบที่นอนที่ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาปวดหลัง ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอไหล่และหลัง และด้วย Sleep Lab ของ Ventry ที่มีบริการวิเคราะห์การนอนด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เราพยายามอย่างไม่หยุดยั้งที่จะนำเทคโนโยลีใหม่ๆเข้ามาใช้และด้วยกาเลือกวัตถุดิบทำให้ผู้ใช้หมอนและที่นอน Ventry หลับสบายตลอดคืน
ด้วยการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ยางพาราธรรมชาติของ Ventry ได้รับการออกแบบอยากพิถีพิถันโดยใช้นวัตกรรมล่าสุดจากยุโรปและแคนาดาเพื่อที่จะให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพมากที่สุด เพราะเราเชื่อว่าการนอนหลับที่ดีนั้นไม่ได้มีผลแค่เป็นการพักผ่อนทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างพลังชีวิตทางจิตวิญญาณอีด้วย เราเชื่อว่าธรรมชาติเป็นยารักษาบำบัดที่ดีในตัวของธรรมชาติเองดังนั่นเราจริงเชื่อมั่นในการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราภูมิใจในความสมบูรณ์แบบที่สุดที่เรามีเพื่อให้ลูกค้ามีสุขภาพที่ดีและมีความเชื่อมันในแบรดน์เวนทรี่
ต้นไม้ยางพาราเดิมมาจากทวีปอเมริกาใต้ และได้ถูกนำมาปลูกในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อศตวรรษที่ 19 ในปัจจุบัน ประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ผลิตยางพารามากกว่า 70% ของยางพาราโลก เวนทรี่อยู่ในแถบที่ผลิตยางชั้นนำของโลก ดังนั้นท่านลูกค้าจึงสามารถเชื่อมั่นได้ว่า ฟองน้ำยางพาราของเราทำมาจากยางพาราชั้นนำระดับโลก เราตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบอย่างละเอียดก่อนที่จะนำเข้าสู่กระบวนการผลิตเพื่อนให้สินค้าเรามีคุณภาพดีเยี่ยม
ฟองน้ำยางพาราได้ถูกนำมาใช้งานในครัวเรือนมามากกว่า 60 ปี และได้ถูกทดสอบมาแล้วว่าเป็นวัสดุที่มีความคงทน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ที่นอนฟองน้ำยางพารามีคุณสมบัติที่แตกต่างมากมายซึ่งเหนือกว่าที่นอนสปริงหรือที่นอนใยมาพร้าวทั่วๆไป
ยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่นและแบคทีเรีย ในปี 1967 R.A. Kubista ตีพิมพ์งานวิจัยที่พิสูจน์ว่าฟองน้ำยางพารามีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย การทดลองต่อๆมาพบว่าฟองน้ำยางพารายับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่นและเชื่อราอีกด้วย ดังนั้นฟองน้ำยางพาราจึงเหมาะกับผู่ที่เป็นภูมิแพ้และมองหาสินค้าที่ตอบสนองต่อความต้องการด้านสุขภาพได้เป็นอย่างดี
มีความยืดหยุ่นจากโครงสร้างรูระบายขนาดเล็ก(Micro-Cell Structure) ในกระบวนการ vulcanization ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการผลิต โมเลกุลยางจะจับตัวเป็นโครงสร้างรูระบายอากาศขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก (micro-cell structures) โครงสร้างรูระบายเหล่านี้ทำให้ฟองน้ำยางพารามีคุณสมบัติยืดหยุ่นได้ดี และ เป็นรูระบายอากาศซึ่งช่วยให้ฟองน้ำยางพารามีความเย็นในหน้าร้อนและอบอุ่นในหน้าหนาว
สามารถขึ้นรูปได้ตามต้องการ ฟองน้ำยางพาราสามารถนำมาขึ้นเป็นรูปต่างๆได้ตามต้องการ หรือ ตัดเป็นรูปร่างได้ตามที่ออกแบบ ซึ่งจะไม่เหมือนกับที่นอนหรือหมอนทั่วๆไป และฟองน้ำยางพาราที่ขึ้นรูปแล้วจะมีความคงทนและคงรูปมากกว่าที่นอนนุ่นหรือใยมะพร้าวทั่วๆไปโดยไม่ต้องอาศัยโครงเหล็กหรือสปริงมาช่วยยิดให้คงรูปได้
มีระบบยืดหยุ่นแบบแยกสัดส่วน (Movement Separation System) เพราะที่นอนเวนทรี่ประกอบไปด้วยโครงสร้างระบายอากาศที่แยกจากกัน (micro-cell structure) ดังนั้นการขยับในเวลานอนในแต่ละส่วนของที่นอนจะไม่กระทบกับส่วนอื่นของที่นอน ดังนั้นคู่นอนจะสามารถหลับได้สนิทแม้คู่นอนอีกฝ่ายจะมีการขยับตัวระหว่างนอนก็ตาม
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฟองน้ำยางพาราของเวนทรี่ทำจากยางธรรมชาติ 100% จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง และที่นอนฟองน้ำยางพาราธรรมชาติของเวนทรี่ไม่มีโลหะ ซึ่งมีสารเหนี่ยวนำแม่เหล็กเหมือนที่นอนสปริงทั่วๆไป ดังนั้นที่นอนเวนทรี่จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการธรรมชาติบำบัดสำหรับการนอนที่มีคุณภาพ
มีความทนทาน เพราะฟองน้ำยางพาราธรรมชาติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่นและแบคทีเรีย ที่นอนจึงได้รับผลกระทบจากจุลินทรีย์เหล่านี้ค่อนข้างน้อย จึงมีความทนทานมีอายุการใช้งานนาน ถ้ามีการใช้และทำความสะอาดอย่างเหมาะสม ที่นอนและหมอนยางพาราเวนทรี่จะสามารถมีอายุการใช้งานถึง 15 ปี